ชาน่าน: ขุมทรัพย์ที่ซ่อนตัวอยู่ใน
ขุนเขาแห่งสายหมอก

อารยธรรมชาที่ย้อนไปนับกว่าสองร้อยปีดังมีประวัติบันทึกไว้เป็นจิตรกรรมโบราณบนฝาผนังโบสถ์วัดภูมินทร์ หรือ วัดตำนานกระซิบรักบันลือโลก โดยจิตรกรรมฝาผนังดังกล่าวเป็นบันทึกด้วยรูปวาดชาวเขาเก็บชาอัสสัมแบกขึ้นบ่านำมาขายในเมือง สะท้อนถึงอารยธรรมชาเก่าแก่ของจังหวัดน่าน และเรื่องราวระหว่างชาอัสสัมกับผู้คนมาอย่างยาวนาน

กว่าสองร้อยปี ระยะเวลาอันยาวนานได้สร้างให้ชาอัสสัมของจังหวัดน่าน มีวิวัฒนาการของตัวเอง ขยายพันธุ์บนดินแดนภูเขาสูง ที่มีภูมิอากาศและแร่ธาตุในดินแตกต่างกับชาแหล่งอื่น สิงห์ปาร์ค พบว่าชาอัสสัมของจังหวัดน่าน มีคุณสมบัติ และรสชาติที่แตกต่างอย่างน่าสัมผัส

เพื่อนำคุณค่าที่แตกต่างของชาอัสสัมจังหวัดน่าน ให้เกิดเป็นอัตลักษณ์ใหม่แห่งวงการชาของประเทศไทย สิงห์ปาร์คจึงลงทุนกว่าร้อยล้านบาท สร้างโรงงานผลิตและแปรรูปชาอัสสัมมาตรฐานสูง ควบคุมการผลิตโดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องชาที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่าสามสิบปี และมีทีมงานที่ชำนาญในการปรุงชา คาแรกเตอร์พิเศษเฉพาะตัวสำหรับธุรกิจคุณ

จังหวัดน่าน ได้รับเลือกเป็นพื้นที่ต้นแบบบูรณาการแก้ไขปัญหาและพัฒนาตามแนวพระราชดำริในการพัฒนาพื้นที่ชนบท ซึ่งเดิมประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหายากจน ขาดแคลนความรู้ในการเพาะปลูกเเละใช้พื้นที่อย่างเหมาะสม ให้กลับมามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโดยการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีการเกษตรที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของเกษตรกร รวมถึงความรู้ในการปรับเปลี่ยนชนิดพืชที่ปลูก จากการปลูกพืชผักสวนครัวเพื่อบริโภคในครัวเรื่อนอย่างเดียว มาเป็นการเพาะปลูกเพื่อสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นและมั่นคง อย่าง ชาอัสสัม กาแฟ เเละไม้ผลเมืองหนาว